ทําไมพลังงานทดแทนที่สามารถหมุนเวียนมาใช้ได้อีก หรือที่เราเรียกว่า พลังงาน
หมุนเวียน... กลายเป็นสิ่งที่ไม่สามารถหยุดได้ ในอนาคตโลกเรามีแนวโน้มและดูเหมือน
ว่ากว่า 50% ของพลังงานไฟฟ้าจะมาจากพลังงานหมุนเวียน ได้แก่ แสงอาทิตย์ ลม ชีวมวล น้ํา
และไฮโดรเจน เป็นต้น ซึ่งจากการคาดการณ์จะเกิดขึ้นในช่วงปี ค.ศ. 2035-2050 โดยมี
ปัจจัยขับเคลื่อนหลักที่สําคัญ คือความใส่ใจด้านสิ่งแวดล้อมมากขึ้นและความมุ่งมั่นของ
รัฐบาลที่มีเป้าหมายสําคัญตามการประชุม COP 26 และ 27 คือ ประเทศไทยจะเป็นกลาง
ทางคาร์บอน (Carbon Neutrality) ในปี ค.ศ. 2050 (พ.ศ. 2593) และปล่อยก๊าซเรือนกระจก
สุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero) ภายในปี ค.ศ. 2065 (พ.ศ. 2608) เพื่อที่จะบรรลุเป้าหมาย
ตามกรอบอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและความตกลง
ปารีส ซึ่งกําหนดเป้าหมายให้ประชาคมโลกต้องร่วมกันกําจัดการเพิ่มขึ้นของอุณหภูมิเฉลี่ย
ของโลกไม่ให้เพิ่มขึ้นเกิน 1.5-2 องศาเซลเซียส ให้ได้ภายใน ค.ศ. 2100 (พ.ศ. 2643)
นอกจากนี้แล้ว พลังงานหมุนเวียนกลายเป็นสิ่งที่เริ่มจับต้องได้ เพราะทุกคนในทุกพื้นที่
ได้ให้ความสนใจที่จะหาแหล่งพลังงานและจัดเตรียมพื้นที่สําหรับการผลิตพลังงานหมุนเวียน
มากกว่าพลังงานที่ได้จากฟอสซิล และปัจจุบันมีเทคโนโลยีต่างๆ มากมายที่รองรับและ
ส่งเสริมการผลิตพลังงานหมุนเวียน
การนําพลังงานหมุนเวียนมาใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นต้องการ
เทคโนโลยีระบบกักเก็บพลังงาน (Energy Storage) ที่มีหลากหลายรูปแบบและมีส่วนช่วยลด
ความผันผวนและความไม่แน่นอนของพลังงานหมุนเวียนซึ่งทําให้เราจ่ายไฟฟ้าจากพลังงาน
หมุนเวียนได้อย่างมีเสถียรภาพ ในช่วงระยะเวลาหลายปีที่ผ่านมา ระบบไฟฟ้ามีการ
เปลี่ยนแปลงไป เนื่องจากผลกระทบอย่างมีนัยจากภาคการขนส่งด้วยไฟฟ้า (ยานยนต์ไฟฟ้า)
ภาคครัวเรือน (บ้านและอาคารอัจฉริยะ) และภาคการส่งเสริมการผลิตไฟฟ้าจากพลังงาน
หมุนเวียน (แสงอาทิตย์และลม) เทคโนโลยีระบบสะสมพลังงานจึงเป็นจําเป็นในการนํามา
ประกอบเพื่อสร้างศักยภาพของการผลิตและการใช้พลังงานไฟฟ้า ประสิทธิภาพ เสถียรภาพ
และความเชื่อถือได้ของระบบไฟฟ้าทั้งระบบ
สมาคมไฟฟ้าและพลังงานไอทริปเปิลอี (ประเทศไทย) ได้เล็งเห็นถึงความสําคัญ
จึงได้จัดให้มีการสัมมนาเชิงวิชาการ เรื่อง “การบูรณาการระบบกักเก็บพลังงานร่วมกับ
พลังงานทดแทน: นโยบาย การวางแผน ออกแบบ วิธีการแก้ปัญหา การปฏิบัติ และ
การควบคุม (Integration of Energy Storage System with Renewable Energy
Sources: Policy, Planning, Design, Solutions, Operation and Control)” โดยการ
สนับสนุนวิชาการจาก พพ. กฟผ. กฟภ. กฟน. ผู้ออกแบบ ผู้รับเหมา และผู้ผลิต บริษัท
ผู้ประกอบการและสถาบันอุดมศึกษาในประเทศไทย ซึ่งเป็นผู้มีประสบการณ์ในงานภาค
ปฏิบัติโดยตรง และเป็นผู้มีความรู้และประสบการณ์ในการพัฒนาโครงการผลิตไฟฟ้า
จากแหล่งพลังงานทดแทนมาเป็นอย่างดี
วัตถุประสงค์
เพื่อให้ผู้เข้าร่วมสัมมนาได้รับความรู้ ความเข้าใจ เกี่ยวกับแนวคิด
การพัฒนาและการประยุกต์ใช้เทคโนโลยี ระบบผลิตไฟฟ้าจากแหล่ง
พลังงานทดแทนร่วมกับระบบกักเก็บพลังงานและวิธีแก้ไขปัญหาคุณภาพ
ไฟฟ้าที่จะเกิดขึ้นในระบบ และเพื่อสามารถใช้เป็นแนวทางสําหรับศึกษา
วางแผน ออกแบบ และลงทุนพัฒนาโครงการผลิตไฟฟ้าจากแหล่งพลังงาน
หมุนเวียนได้อย่างมีประสิทธิภาพ ก่อให้เกิดประโยชน์สูงสุด
1. เพื่อสร้างความรู้ ความเข้าใจ เกี่ยวกับแนวคิดการพัฒนาและ
การประยุกต์ใช้เทคโนโลยี ระบบผลิตไฟฟ้าจากแหล่งพลังงาน
ทดแทนร่วมกับระบบกักเก็บพลังงา
2. เพื่อสร้างความรู้ ความเข้าใจ วิธีแก้ไขปัญหาคุณภาพไฟฟ้าที่จะ
เกิดขึ้นในระบบ จากการใช้พลังงานทดแทน ทําให้เราสามารถ
นําพลังงานไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนไปใช้ได้อย่างมี
ประสิทธิภาพ
3. เพื่อเปิดโอกาสให้ปรึกษาแลกเปลี่ยนประสบการณ์ระหว่าง
ผู้เข้าสัมมนาทุกคนกับผู้เชี่ยวชาญโดยตรง
กลุ่มเป้าหมาย
1. บริหาร เจ้าหน้าที่ภาครัฐที่กําหนดนโยบาย วิศวกรและเจ้าหน้าที่
ที่ปฏิบัติงานในกิจการไฟฟ้าและพลังงาน
2. ผู้ผลิตไฟฟ้าเอกชน นักลงทุน ด้านไฟฟ้าและพลังงาน และผู้ให้
บริการเทคโนโลยี Distributed Energy Resources (DERs),
Microgrid, Energy Storage และเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้อง รวมทั้ง
ที่ปรึกษา ผู้รับเหมา อาจารย์ มหาวิทยาลัยและสถาบันการศึกษา
และผู้ที่สนใจทั่วไป
*** สมาคมฯ ให้ความสําคัญกับมาตรการของภาครัฐ เพื่อลดความเสี่ยงการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อ COVID-19 แก่ผู้เข้าสัมมนาและวิทยากรทุกท่าน ทางสมาคมฯ
ได้จัดสัมมนาให้เป็นไปตามมาตรการป้องกันโรคและคําแนะนําของทางราชการ