ในปัจจุบันการเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัล (Digital Transformation) เข้ามา
มีบทบาทสําคัญในการขับเคลื่อนธุรกิจและพัฒนาศักยภาพขององค์กรและภาคธุรกิจ
ต่างๆ รวมถึงอุตสาหกรรมพลังงานและธุรกิจโรงไฟฟ้าด้วยเช่นกัน การเปลี่ยนแปลง
ทางดิจิทัลยังช่วยให้เราสามารถดึงเอาทรัพยากรที่มีอยู่มาใช้ให้เกิดประโยชน์และความ
คุ้มค่าสูงที่สุดอีกด้วย กระแสอนาคตที่กําลังเป็นที่จับตามองในช่วงนี้คงหนีไม่พ้น AI,
Machine Learning, IoT, Quantum, Blockchain, Cloud, Big Data and Cyber
Security ฯลฯ เทคโนโลยีเหล่านี้จะเป็นส่วนสําคัญอย่างยิ่งในการขับเคลื่อนโลก
องค์กร ธุรกิจ ไม่เพียงแต่ในอนาคตเท่านั้น แต่ในปัจจุบันเทคโนโลยีเหล่านี้ก็มีผล
ต่อรูปแบบธุรกิจในอุตสาหกรรมพลังงานและธุรกิจโรงไฟฟ้าแล้วเช่นกัน ยกตัวอย่าง
เช่น การนํา AI และ Machine Learning มาใช้ในภาคพลังงานทดแทน รวมถึงประยุกต์ใช้
ในการวิเคราะห์กริดไฟฟ้า การนํา IoT มาใช้ในการจัดการพลังงาน การใช้ Quantum
มาช่วยในการประมวลผลที่เร็วขึ้น การประยุกต์ใช้ Blockchain กับโรงไฟฟ้าเสมือน
การนํา Big Data และ Data Analytics มาใช้ในการจัดการทรัพยากรในอุตสาหกรรม
พลังงาน การสร้างความปลอดภัยทาง Cyber เพื่อให้เกิดความมั่นคง เสถียร และ
ปลอดภัยของระบบกริดไฟฟ้า เป็นต้น ในการจะนําเทคโนโลยีเหล่านี้มาประยุกต์ใช้
ให้เกิดประสิทธิภาพและความคุ้มค่าสูงที่สุด ผู้ใช้จําเป็นต้องมีความรู้และความเข้าใจ
ที่ถูกต้องเกี่ยวกับภาพรวมของ Digital Transformation และหลักการเบื้องต้น
และการนําไปประยุกต์ใช้ รวมไปถึงเทคโนโลยีและความก้าวหน้าที่มีอยู่ในปัจจุบัน
เพื่อนํามาใช้ในการพัฒนาองค์กรและขับเคลื่อนอุตสาหกรรมพลังงานและธุรกิจ
โรงไฟฟ้าให้มีประสิทธิภาพสูงสุดเพื่อให้เกิดการใช้ทรัพยากรที่มีอยู่จํากัดอย่างคุ้มค่า
สมาคมไฟฟ้าและพลังงานไอทริปเปิลอี (ประเทศไทย) หรือ IEEE PES Thailand
ได้เล็งเห็นถึงความสําคัญจึงได้จัดให้มีการสัมมนาเชิงวิชาการ เรื่อง “การเปลี่ยน
รูปแบบการจัดการด้านดิจิทัลของอุตสาหกรรมพลังงาน” ซึ่งจะเป็นประโยชน์อย่างยิ่ง
ต่อการพัฒนาพลังงานทดแทนเพื่อนําไปสู่การพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศอย่างยั่งยืน
โดยการสนับสนุนวิชาการจากผู้เชี่ยวชาญจากทั้งในประเทศและต่างประเทศ สถาบัน
อุดมศึกษา Solution Providers และ Start Up ด้านไฟฟ้าและพลังงาน ซึ่งเป็นผู้มี
ประสบการณ์ในงานด้านนี้โดยตรง
วัตถุประสงค์
1. สร้างความรู้ ความเข้าใจพื้นฐานเกี่ยวกับปัญญาประดิษฐ์
(Artificial Intelligence: AI), การเรียนรู้ของเครื่อง
(Machine Learning), อินเทอร์เน็ตของสรรพสิ่ง (Internet
of Things: IoT), ควอนตัม (Quantum), บล็อกเชน
(Blockchain), คลาวด์ (Cloud), ข้อมูลมหัต (Big Data),
ความมั่นคงปลอดภัยทางไซเบอร์ (Cyber Security) แก่ผู้
สนใจลงทุน ผู้ให้บริการออกแบบและติดตั้ง ตลอดจนวิศวกร
และเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงานเกี่ยวข้อง
2. ข้าใจถึงวิธีการที่จะนําองค์ความรู้เกี่ยวกับ AI, Machine
Learning, IoT, Quantum, Blockchain, Cloud, Big Data
and Cyber Security มาทําให้เกิดการเปลี่ยนแปลง สู่ยุค
ดิจิทัลของธุรกิจพลังงานและโรงไฟฟ้า
3. สร้างความตระหนักรู้ถึงความสําคัญของ Digital Transformation
โดยการนํา AI, Machine Learning, IoT, Quantum,
Blockchain, Cloud, Big Data, Cyber Security มาประยุกต์ใช้
เพื่อพัฒนาให้เกิดความก้าวหน้า ในธุรกิจพลังงานและ
โรงไฟฟ้า รวมถึงการนําเทคโนโลยีมาใช้ประโยชน์ในด้านการ
จัดการธุรกิจและทรัพยากร
4. ปิดโอกาสให้ปรึกษา แลกเปลี่ยนประสบการณ์ระหว่างผู้เข้า
อบรมทุกคนและรับทราบแนวทางในการประยุกต์และนําเอา
องค์ความรู้ที่ได้รับไปปรับใช้ในธุรกิจและหน่วยงานของตน
เพื่อให้เกิดการพัฒนาของธุรกิจพลังงานและโรงไฟฟ้าต่อไป
กลุ่มเป้าหมาย
1.น่วยงานภาครัฐ ผู้กําหนดนโยบายทางด้านไฟฟ้าพลังงาน
การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย การไฟฟ้านครหลวง การไฟฟ้า
ส่วนภูมิภาค และบริษัทผู้ผลิตไฟฟ้าเอกชน, SPP, VSPP ฯลฯ
2. มหาวิทยาลัยและสถาบันการศึกษา
3. ผู้ผลิต ผู้รับเหมา ผู้รับติดตั้ง วิศวกร เจ้าหน้าที่ปฏิบัติการบํารุง
รักษา ผู้ใช้ไฟฟ้าและผู้สนใจทั่วไป
*** สมาคมฯ ให้ความสําคัญกับมาตรการของภาครัฐ เพื่อลดความเสี่ยง
การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อ COVID-19 แก่ผู้เข้าสัมมนาและวิทยากรทุกท่าน
ทางสมาคมฯ ได้จัดสัมมนาให้เป็นไปตามมาตรการป้องกันโรคและคําแนะนําของ
ทางราชการ